พิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยา๕๐พรรษาสยามบรมราชกุมารี
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้คำจำกัดความว่า พิพิธภัณฑสถาน เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาโดยไม่หวังผลประโยชน์หรือผลกำไร มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นแหล่งบริการความรู้นอกระบบแก่ชุมชน และเปิดให้สาธารณชนเข้าใช้บริการ เพื่อรับคำแนะนำความรู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการศึกษาเรียนรู้และพักผ่อน
พิพิธภัณฑสถาน ธรรมชาติวิทยา เป็นรูปแบบหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานที่ให้ความรู้ และดำเนินการวิจัยด้านธรรมชาติศึกษา และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรื่องของชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของสิ่งแวดล้อมกับชีวิต อันเป็นจุดกำเนิดของความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการ การปรับตัว ชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งอุปนิสัยและถิ่นที่อยู่
คณะวิทยาศาสตร์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ งานพิพิธภัณฑ์สถานธรรมชาติวิทยา จึงยกระดับเป็นหน่วยงานอิสระขึ้นตรงกับคณะวิทยาศาสตร์ ในแผนพัฒนาฉบับที่ 7 และในปี 2537 ได้รับงบประมาณแผ่นดินเพื่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑสถาน 1 หลัง และต่อมาตั้งชื่อเป็น "พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์" โดยรวมกิจกรรมในส่วนของพิพิธภัณฑ์พืชเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายกิจกรรมให้ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งวิจัยด้านธรรมชาติศึกษาแก่ชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้ และเป็นแหล่งวิจัยด้านธรรมชาติศึกษา ของนักวิจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ
จากผลงานวิจัยของบุคคลากรของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ของพืช ทั้งพันธุ์สัตว์ และพรรณพืชจำนวนมาก ได้รับการตีพิมพ์จากในวารสารนานาชาติ จัดเก็บตัวอย่างต้นแบบไว้ที่พิพิธภัณฑ์อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้งานของพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ งานของพิพิธภัณฑสถานแห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น และในปี 2549 ทางพิพิธภัณฑ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนาม ตั้งชื่อเป็น "พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา 50 พรรษา สยามบรมราชกุมารี " หรือ "Princess Maha Chakri Sirindhorn Natural History Meseum" พร้อมทั้งมีพระราชานุญาติให้อัญเชิญพระนามาภิไทยย่อ "สธ" มาประดิษฐาน พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา 50 พรรษา สยามบรมราชกุมารี จึงดำเนินภารกิจเพื่อ สนองพระราชดำริในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ นับแต่นั้นมา
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09:30 - 16:30 น. ท่านที่มีจิตศรัทธา ต้องการบริจาคซากพืช สัตว์ที่น่าสนใจ หินและแร่ให้เก็บรวบรวมไว้ในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา เพื่อประโยชน์ในการศึกษาทางด้านธรรมชาติวิทยาแก่ลูกหลานต่อไป ทางพิพิธภัณฑ์จะจารึกชื่อผู้ที่มอบไว้ให้ด้วย
สามารถติดต่อขอบริ จาคได้ที่ ตึกไดโนเสาร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7444 6682, 0 7428 8067-8
สามารถติดต่อขอบริ จาคได้ที่ ตึกไดโนเสาร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7444 6682, 0 7428 8067-8
Credit http://www.sc.psu.ac.th/
วิธีเดินทางจากกรุงเทพฯ-พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา๕๐พรรษาสยามบรมราชกุมารี
ร่วมระยะทางประมาณ 936 กม
ถนนพญาไท |
1. | มุ่งไปทางทิศ เหนือ ไปตาม ถนน พญาไท | 37 ม. | |
2. | เมื่อถึงวงเวียน ใช้ทางออก ที่ 2 ไปยัง ถนนพหลโยธิน/ | 270 ม. | |
3. | เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ทางลาดไปยัง ทาง ด่วนขั้นที่ 2/ | 23 ม. | |
4. | ชิดขวาตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง ทางด่วนขั้นที่ 2/ ทางพิเศษ | 750 ม. | |
5. | ใ้ช้ทางออกเข้าสู่ Bang Khlo/ ทางพิเศษ | 450 ม. | |
6. | ตัดเข้าไปยัง เส้นทาง 3119 ทางพิเศษ | 8.9 กม. | |
7. | ใช้ทางออก South 2-14 เข้าสู่ Bang Khlo/ ทางพิเศษ | 700 ม. | |
8. | ตัดเข้าไปยัง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร/ ถนน ที่เก็บค่าผ่านทางบางช่วง | 7.0 กม. | |
9. | ขับต่อไปยัง เส้นทาง 35 | 51.4 กม. | |
10. | เลี้ยวซ้ายเล็กน้อย เพื่อวิ่งบน เส้นทาง 35 | 30.3 กม. | |
11. | ใช้ทางลาดไปยัง เพชรเกษม/ | 450 ม. | |
12. | ชิดซ้ายตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง เพชรเกษม/ | 190 ม. | |
13. | ชิดขวาตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง เพชรเกษม/ | 64.4 กม. | |
14. | ชิดซ้ายตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง เพชรเกษม/ | 850 ม. | |
15. | ชิดซ้ายตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง เพชรเกษม/ วิ่งต่อไปตามเส้นทาง เส้นทาง 4 | 50.6 กม. | |
16. | เลี้ยวขวา ที่ เพชรเกษม/ | 182 กม. | |
17. | ชิดขวาตรงทางแยก เพื่อวิ่งต่อไปยัง เส้นทาง 41 | 67.1 กม. | |
18. | ขับต่อไปยัง เส้นทาง 41 | 383 กม. | |
19. | เบี่ยงขวาเล็กน้อยที่ เพชร เกษม/ | 65.3 กม. | |
20. | ขับต่อไปยัง เส้นทาง 43 | 21.5 กม. |
เส้นทาง 43 |
link เส้นทางโดยgooglemap
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment